ที่มาของคำว่า เพชร
เพชร เป็นอัญมณี รูปแบบหนึ่งของคาร์บอน จัดเรียงตัวเป็นทรงแปดหน้า เป็นแร่ที่แข็งที่สุดตามสเกลของโมส์ (Moh's scale) มีค่าความแข็งเท่ากับ 10
เพชร มีหลายสี สีที่นิยมที่สุดคือสีขาวบริสุทธิ์ สีที่หายากคือสีแดง ฟ้า เขียว ส้ม ชมพู เรียก "แฟนซีไดมอนด์" มีราคาสูงมาก การเจียระไนเป็น 52 เหลี่ยมนับว่าสวยที่สุด เพชรเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ ความแข็งแกร่ง แหล่งของเพชรมีอยู่ทั่วโลก ส่วนมากพบที่บราซิล และแอฟริกาใต้
ที่มาของชื่อ
คำว่า เพชร ในภาษาไทย มาจาก वज्र (วชฺร) ในภาษาสันสกฤต หมายถึง สายฟ้า หรืออัญมณีชนิดนี้ก็ได้ ส่วนในภาษาอังกฤษ "diamond" มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกโบราณ αδάμας (adamas) ซึ่งมีความหมายว่า ไม่มีใครชนะได้ ภายหลังได้แผลงเป็น adamant, diamaunt, diamant และ diamond ในที่สุด
"เพชรเลอค่าอมตะ" Diamond is Forever เพชร นับเป็นตัวแทนแห่งความรักที่สมบูรณ์แบบ สูงค่าและหายากยิ่ง เพราะไม่เพียงเป็นสสารที่แข็งที่สุดในธรรมชาติ เพชรยังหายากมากอีกด้วย ในขั้นตอนการผลิตเพชร เราต้องใช้หินในเหมืองแร่มากกว่า 250 ตัน เพื่อให้ได้เพชรร่วง (เพชร ที่ยังไม่ได้ขึ้นตัวเรือน) คุณภาพดีเพียง 1 กะรัต (5 กะรัต = 1 กรัม)
|